สำหรับเทรนเนอร์ทั้งหลายที่กำลังเล่น Pokemon GO
อาจจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบต่างๆ ในระบบเกม
ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโปเกม่อนในครอบครองของเรา ทั้งค่าของ CP ( Combat
Power) ทั้งการค้นหา Pokemon Candy และ Stardust
เพื่อเป็นส่วนผสมของการพัฒนาให้แข็งแรงมากขึ้น
เพื่อพร้อมที่จะลุยยิมในแต่ละจุดบนแผนที่
มี 2 แนวทางสำหรับการพัฒนาโปเกมอนของคุณ คือ
Power Up
สำหรับวิธีนี้จะใช้อุปกรณ์ในการอัพเกรด 2 ชนิดด้วยกันคือ Stardust และ Candy ซึ่งส่วนของ Candy จะมีเฉพาะของแต่ละสายพันธุ์ระบุไว้ชัดเจนตามชื่อโปเกมอนอยู่แล้ว โดยที่การเพิ่มพลังจะใช้งานครั้งละ 1 เม็ดเท่านั้น และเราสามารถตามหาเพิ่มเติมได้ในทุกครั้งที่เราจับโปเกมอนสายพันธุ์เดียวกัน สำหรับการอัพเกรดแบบนี้จะมีแถบครึ่งวงกลมแสดงคุณสมบัติอยู่ที่ด้านหลังตัว โปเกมอน เมื่ออัพไปถึง 75% จะเริ่มใช้ candy 2 เม็ดในการเพิ่มพลังแต่ละครั้ง ส่วนของ Stardust จะใช้งานเท่ากันทุกครั้งแตกต่างกันตามสายพนธุ์ของโปเกมอน
ผลของการเพิ่มพลัง คือค่า CP และค่า HP จะเพิ่มขึ้น
Evolve
การพัฒนาการจะสามารถทำได้เฉพาะโปเกมอนสายพันธุ์ โดยใช้ candy ของแต่ละสายพันธุ์ในกันพัฒนาการแต่ละครั้ง และจำนวนที่แตกต่างกันออกไป ดูแล้วมันจะเป็นทางที่รวดเร็วที่สุดของการเพิ่มค่า CP โดยการจับโปเกมอนแต่ละครั้งจะได้ candy 3 เม็ด และการส่งคืนโปเกมอนจะได้ candy อีก 1 เม็ด
ยกตัวอย่างเช่น Pidgey ถ้าเราต้องการพัฒนาจะต้องจับ Pidgey อีก 3 ตัวและส่งคืน Pidgey อีก 3 ตัว ก็จะได้ candy ทั้งหมด 12 เม็ด เพียงเท่านี้ก็สามารถพัฒนาเป็น Pidgeotto ได้เรียบร้อย ซึ่งขั้นต่อไปต้องใช้งาน Pidgey Candy อีก 50 เม็ด ซึ่งต้องออกล่า Pidgey อีกล็อตใหญ่
และทุกครั้งที่เทรนเนอร์พัฒนาโปเกมอน สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาก็คือค่าประสบการณ์อีก 500 XP รวมกับค่าประสบการณ์ทุกครั้งที่เราออกจับโปเกมอนได้อีกครั้งละ 500 XP มันน่าสนใจให้เราออกไปเดินจับโปเกมอนมากขึ้น
ขนาด XL, XS, และปกติ ของโปเกมอนสำคัญหรือไม่
สำหรับในข้อมูลของโปเกมอนแต่ละตัวจะมีส่วนของน้ำหนักและส่วนสูงระบุไว้ เสมอ และนอกจากนั้นยังมีป้ายขนาดไว้อีกด้วย คือ XL, XS, และขนาดปกติ ซึ่งจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับค่า CP สำหรับการโจมตีหรือส่วนของ HP หรือไม่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการออกมา แต่ในทุกครั้งที่เราพัฒนาโปเกมอนข้อมูลในส่วนของขนาดและน้ำหนักจะมีการ เปลี่ยนแปลงไปด้วย
ที่มา: http://www.whatphone.net/tips/how-to-train-your-pokemon/
เครดิต IGN
มี 2 แนวทางสำหรับการพัฒนาโปเกมอนของคุณ คือ
- Power Up
- Evolve
Power Up
สำหรับวิธีนี้จะใช้อุปกรณ์ในการอัพเกรด 2 ชนิดด้วยกันคือ Stardust และ Candy ซึ่งส่วนของ Candy จะมีเฉพาะของแต่ละสายพันธุ์ระบุไว้ชัดเจนตามชื่อโปเกมอนอยู่แล้ว โดยที่การเพิ่มพลังจะใช้งานครั้งละ 1 เม็ดเท่านั้น และเราสามารถตามหาเพิ่มเติมได้ในทุกครั้งที่เราจับโปเกมอนสายพันธุ์เดียวกัน สำหรับการอัพเกรดแบบนี้จะมีแถบครึ่งวงกลมแสดงคุณสมบัติอยู่ที่ด้านหลังตัว โปเกมอน เมื่ออัพไปถึง 75% จะเริ่มใช้ candy 2 เม็ดในการเพิ่มพลังแต่ละครั้ง ส่วนของ Stardust จะใช้งานเท่ากันทุกครั้งแตกต่างกันตามสายพนธุ์ของโปเกมอน
ผลของการเพิ่มพลัง คือค่า CP และค่า HP จะเพิ่มขึ้น
Evolve
การพัฒนาการจะสามารถทำได้เฉพาะโปเกมอนสายพันธุ์ โดยใช้ candy ของแต่ละสายพันธุ์ในกันพัฒนาการแต่ละครั้ง และจำนวนที่แตกต่างกันออกไป ดูแล้วมันจะเป็นทางที่รวดเร็วที่สุดของการเพิ่มค่า CP โดยการจับโปเกมอนแต่ละครั้งจะได้ candy 3 เม็ด และการส่งคืนโปเกมอนจะได้ candy อีก 1 เม็ด
ยกตัวอย่างเช่น Pidgey ถ้าเราต้องการพัฒนาจะต้องจับ Pidgey อีก 3 ตัวและส่งคืน Pidgey อีก 3 ตัว ก็จะได้ candy ทั้งหมด 12 เม็ด เพียงเท่านี้ก็สามารถพัฒนาเป็น Pidgeotto ได้เรียบร้อย ซึ่งขั้นต่อไปต้องใช้งาน Pidgey Candy อีก 50 เม็ด ซึ่งต้องออกล่า Pidgey อีกล็อตใหญ่
และทุกครั้งที่เทรนเนอร์พัฒนาโปเกมอน สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาก็คือค่าประสบการณ์อีก 500 XP รวมกับค่าประสบการณ์ทุกครั้งที่เราออกจับโปเกมอนได้อีกครั้งละ 500 XP มันน่าสนใจให้เราออกไปเดินจับโปเกมอนมากขึ้น
ขนาด XL, XS, และปกติ ของโปเกมอนสำคัญหรือไม่
สำหรับในข้อมูลของโปเกมอนแต่ละตัวจะมีส่วนของน้ำหนักและส่วนสูงระบุไว้ เสมอ และนอกจากนั้นยังมีป้ายขนาดไว้อีกด้วย คือ XL, XS, และขนาดปกติ ซึ่งจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับค่า CP สำหรับการโจมตีหรือส่วนของ HP หรือไม่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการออกมา แต่ในทุกครั้งที่เราพัฒนาโปเกมอนข้อมูลในส่วนของขนาดและน้ำหนักจะมีการ เปลี่ยนแปลงไปด้วย
ที่มา: http://www.whatphone.net/tips/how-to-train-your-pokemon/
เครดิต IGN
Post A Comment:
0 comments: